การขับขี่รถให้ปลอดภัย
,
หลักพื้นฐานการขับขี่ปลอดภัย
วันนี้ผมจะมาพูดถึงการขับขี่อย่างไรให้ปลอดภัย รวมถึงการออกทริปให้ปลอดภัย กันครับ
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าผมไม่ได้ขับรถเก่งแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ผมผ่านมาคือ ผมขับมอเตอร์ไซต์มา 18 ปีแล้ว รวมระยะไมล์ก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 1 ล้านกิโลเมตรครับ เพราะผมขับแทบทุกวัน ขับเที่ยวหัวค่ำยันเช้า ผมชอบขับรถเล่นครับ ตั้งแต่สมัยเด็กๆ ทุกวันนี้ผมขับรถเข้ากรุงเทพ ไป-กลับ จากที่ทำงานรถติดมากๆ วันละ 70 กิโลเมตรครับ (ไป-กลับ) เลยอยากจะมาแชร์ประสบการการขับขี่ที่ปลอดภัยให้เพื่อนๆ อ่านกันครับ
ขออธิบายเป็นข้อๆ ดังนี้เลยครับ
1. ตรวจเช็คสภาพรถก่อนครับ เบรคหน้า เบรคหลัง ต้องหนึบ พอเบรคได้ในระยะกระชั้นชิด ไฟหน้า ไฟสูงรถ (หากมี) แตรรถ ผมแนะนำไปเปลี่ยนเป็นแตรลมครับ เสียงดังเหมือนรถเก๋ง จะได้ได้ยินชัดเจน
2. เวลาขับรถให้มองข้างหน้าในมุมกว้างครับ มองรถข้างหน้าเป็นหลัก มองซ้าย มองขวา ในระยะ 5-100 เมตรเลยครับ กวาดทุกระยะ เพื่อความปลอดภัย และที่สำคัญควรมองกระจกหลังทุกๆ 5-10 วินาทีครับ ป้องกันรถชนจากด้านหลัง หรือรถขับมาเร็ว
3. หากขับบนถนน 2 เลน อีกเลนเป็นเลนสวน ให้คอยระวังสิ่งต่างๆ ดังนี้
- ระวังรถที่แซงขึ้นมาจากฝั่งตรงข้ามเรา หากเห็นรถทำท่าเหมือนจะแซงมาให้ขับหลบเลนซ้ายชิดๆ ขอบถนน เพื่อป้องกันการชนอัดประสานงานและสามารถหลบได้อย่างปลอดภัยในกรณีที่เขาหักรถมาทางเรา
- มองกระจกหลังสม่ำเสมอ หากมีรถมาเร็วให้หลบซ้ายทันที หากไม่อยากมองกระจกหลังบ่อยเกินไป ให้ขับด้วยความเร็วสูงพอประมาณ คือให้เร็วกว่ารถเก๋งพอสมควร เพื่อป้องกันรถชนจากด้านหลัง ของรถที่ขับเร็วมาจากด้านหลังเรา
- มองซอยด้านซ้ายเสมอ หากเจอซอยด้านซ้าย ให้ชลอรถแล้วถอนเกียร์ลง 1-2 เกียร์ เพื่อเวลามีรถขับตัดหน้าออกมาจากซอย จะสามารถเบรคให้ความเร็วลดต่ำได้เร็วกว่าปกติ และเมื่อลดเกียร์แล้วให้ดูรถด้านขวาและขับออกเบี่ยงไปทางขวา เพื่อป้องกันรถออกจากซอยจะได้หลบทัน
4. หากขับถนนมากกว่า 2 เลน เป็นเลนวิ่งทางตรง one-way และมีเกาะกลางถนน ให้ปฏิบัติดังนี้
- สมมุติมี 3 เลน หากคิดว่าขับเร็วมากๆ ให้อยู่เลนขวาสุด แต่ต้องขับความเร็วมากถึงมากที่สุด เพราะเลนขวารถยนต์ขับเร็ว และคอยมองกระจกหลังทุก 1-5 วินาที เพื่อป้องกันรถมาเร็ว หากมีรถขับมาเร็วให้รีบหลบเข้าเลนที่ 2 และให้คอยระวัง u-turn จากฝั่งตรงข้ามด้านขวามือ ถ้าเจอ u-turn ไกลๆ ให้เบี้ยงออกมาเลน 2 และลดความเร็ว ผ่อนคันเร่ง และให้ดูตรง u-turn ว่ามีรถเตรียม u-turn ไหม หากมีรถกำลังเตรียม u-turn ให้ออกไปเลน 1 เลยครับ เพราะหากรถ u-turn ตัดหน้า ยังไงเขาก็มีโอกาส u-turn ไม่เกิน 3 เลนหรอกครับ นอกจากเป็นสิบล้อจะ u-turn เต็มเลน อย่างน้อยเราขับเลน 1 ก็สามารถเบี่ยงไปวิ่งขอบทางก็ไม่ชนกับสิบล้อแล้วครับ ที่สำคัญหากเห็นรถกำลังจะ u-turn ให้บีบแตร 1-2 ครั้งเพื่อเตือนรถที่จะ u-turn และเบี่ยงออกซ้ายตามที่บอกไว้เลยครับ ป้องกันรถตัดหน้า ที่สำคัญตอนเบี่ยงออกซ้าย ให้ดูรถหลังด้วยนะครับ ถ้ามีรถหลังก็ให้ชลอความเร็วพอดีจะเบรกในกรณีรถที่ u-turn ตัดหน้าได้ทัน ส่วนใหญ่คนขับรถชนอัดกับรถยนต์หรือสิบล้อ ตอนกลับรถเนี่ยแหละครับ โอกาสรอดยาก ดังนั้นอย่าประมาทป้องกันยูเทิร์นไว้ด้วย
- กรณีขับช้าให้อยู่เลน 1 แล้วใช้เลน 2 แซง หรือ ถ้าขับรถปานกลางก็อยู่เลน 2 แล้วใช้เลน 3 ไว้แซงครับ
5. ในการขับที่ๆ มีรถติดมากๆ หรือรถเยอะมากๆ ให้มองระยะใกล้ ขับช้าๆ ระหว่างกลางรถยนต์ 2 คัน ทิ้งระยะห่าง 5-10 เมตร ที่สำคัญคือนิ้วโป้งซ้ายต้องแตะที่แตรเพื่อเตรียมบีบเสมอ และพร้อมกำคลัช ส่วนมือขวาและเท้าขวาต้องพร้อมเบรคกระทันหันทันที
6. อย่าขับรถจี้ตูดคันหน้าจนเกินไป หากขับความเร็วไม่ถึง 100 ก็ควรทิ้งระยะให้พอเบรคกระทันหันได้ อาจจะทิ้งระยะประมาณ 15 เมตรขึ้นไป แต่หากขับความเร็ว > 100 ก็ควรขับให้ตรงแนวขอบๆ ด้านซ้าย หรือด้านขวาของรถ เพราะหากรถข้างหน้าเบรคกระทันหัน เราก็แค่หักออกนิดเดียวก็จะไม่ชนตูดรถแล้วครับ
7. ในการขับแซงรถยนต์ หรือมอเตอร์ไซต์ ควรทิ้งระยะห่างด้านข้างขณะขับแซงประมาณ 2-3 เมตร เพื่อป้องกันรถคันที่เราแซงเปลี่ยนเลนกระทันหันหรือหักหลบอะไรบางอย่าง ให้เรามองข้างหน้าและด้านข้างและข้างหลังระหว่างแซง หากรถที่เราแซงหักมาใส่ จะได้หลบออกได้ทัน โดยตอนหลบควรมองกระจกหลังแล้วค่อยหักไปเลนที่ไม่มีรถ พร้อมบีบแตรเพื่อให้รถที่หักหลบได้ยินด้วย
8. เวลาขับรถด้วยความเร็วสูง หากเห็นไฟท้ายรถข้างหน้าเบรค อย่างแรกคือให้เชนเกียร์ต่ำลงทันที และกำเบรคนิดๆ อย่ากำเบรคเยอะ เดี๋ยวท้ายปัด เชนเกียร์ตามระยะห่าง ถ้าระยะห่างมากให้เชนลงทีละเกียร์ช้า แต่หากระยะใกล้ ให้เชนเกียร์ลงทีละเกียร์พร้อมกำเบรคนิดเดียวพอ แต่เชนอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเชนเกียร์เร็วๆ นั้นควรเชนแล้วปล่อย เชนแล้วปล่อย อย่าเชนเร็วเกินไป เพราะแรงเฉื่อยอาจจะทำให้รถท้ายปัดได้ทันที ทางที่ดีให้ขับทิ้งระยะห่างจากตูดรถคันหน้าเยอะๆ จะดีกว่าครับ
9. หากถูกขับตัดหน้าควรทำอย่างไร สิ่งแรกที่ควรทำคือบีบแตร พร้อมเหยียบเบรคครับ การบีบแตรแนะนำให้บีบค้างรัวๆ ครับ สำหรับผมความรู้สึกว่าบีบค้างรัวๆ เป็นการเตือนคนขับตัดหน้าได้ดีกว่าครับ การบีบแตรจะช่วยให้โอกาสที่คนครับหักหลบคืนมี 50/50 ครับ โอกาสรอดของเราก็คือ 50/50 เหมือนกัน แต่ถ้าเราไม่บีบแตร โอกาสรอดก็อาจจะไม่มีครับ คงอยู่ที่เราจะหักพ้นได้แค่ไหน การเบรคช่วยให้เราชนด้วยความแรงน้อยลงครับ เลยต้องทั้งบีบแตรและเหยียบเบรค ผมแนะนำว่าระหว่างที่เราขับเร็วๆ และกำลังจะแซง หรือมียูเทิร์น หรือกรณีที่มีโอกาสที่รถจะตัดหน้า ให้เอานิ้วโป้งซ้ายแตะไว้ที่แตร มือขวาแตะเบรคมือและเท้าก็แตะเบรคเท้า เพื่อความพร้อมทุกอย่างครับ พอพ้นแล้วค่อยผ่อนมือขับตามปกติครับ
10. หากเจอหมา คน หรือสิ่งมีชีวิต ตัดหน้ารถเมื่อขับเร็วๆ ทำอย่างไร - สิ่งแรกที่ต้องทำคือ บีบแตรพร้อมกำเบรคและหักหลบพอประมาณ อย่ากำเบรคสนิท เพราะโอกาสรถคว่ำและเราจะรอดนั้นยากมากครับ หากต้องชนก็ชนให้เบาที่สุดครับ ดีกว่าเราตายฟรีครับ เพราะมันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ ไม่ได้อยากให้ไปชนใครครับ คนส่วนใหญ่เบรคจนรถคว่ำครับ หรือไม่ก็หักหลบแล้วกำเบรคสนิท สุดท้ายรถไถลออกไปชนกับต้นไม้ หรือแท่นปูนเสียชีวิต ทางที่ดีคือเบรคให้พอที่จะไม่ล้ม แล้วหักหลบอย่าให้คว่ำ เพราะเราไม่ได้เบรคแรง ถ้าจะชนก็ขอให้ชนเบาที่สุด ที่กว่าเราคว่ำครับ
11. หากรถล้ม หรือลื่นไถล ทำไง? - ต้องบอกไว้ก่อนว่าเวลาขับรถต้องนึกถึงตอนจะชนเสมอว่าหากจะชน เราจะชนอย่างไร หากจะชนประสานงาน หรือจะชนเมื่อมีคนตัดหน้า ผมแนะนำให้กระโดดออกจากรถครับ เพราะหากเราชนจังๆ แรงกระแทกกับตัวรถ หรืออาจจะกระเด็นไปกระแทกกับรถส่วนใดส่วนหนึ่ง อาจจะคอหักได้ครับ ต่อให้มีหมวกดีแค่ไหน คอหักไปก็ไม่รอดครับ หรือกระแทกแรงจนเลือดคั่งก็เป็นได้ครับ อันนี้สำคัญมากครับ คุณจะต้องคิดถึงตอนจะชนบ่อยๆ เพราะเวลาเกิดขึ้นจริงจะตัดสินใจกระโดดทันครับ คนที่ไม่คิดการล่วงหน้า ถึงเวลาตกใจทำอะไรไม่ถูก ก็คือชนอย่างเดียวจังๆ เลยครับ
12. หากฝนตกหนัก จะขับลุยฝนต้องทำอย่างไร? - กรณีฝนตก สิ่งแรกที่ควรทำคือเปิดไฟกระพริบฉุกเฉิน ขับชิดเลนซ้ายสุด และให้ขับความเร็วไม่ควรเกิน 70 ครับ เพราะฝนตกหากมีอะไรตัดหน้า เบรคกระทันหันลื่นล้มแน่ๆ ครับ หากลื่นล้มความเร็ว 70 ผมคิดว่าเรามีชุดป้องกัน โอกาสเจ็บจะไม่มากเลยครับ ต่อให้กระแทกอะไรอย่างมากก็จุกสักพักครับ เวลาฝนตก ควรใช้เบรคหลังพร้อมเบรคหน้า โดยเน้นเบรคหลังเยอะกว่าครับ ที่ต้องใช้พร้อมกันเพราะว่า หากเบรคหลังอย่างเดียว มันจะไปหยุดล้อหลังโอกาสท้ายปัดก็จะเยอะมาก หากใช้เบรคหน้า โอกาสหน้าคว่ำก็เยอะ หากใช้คู่กัน มันจะเกิดแรงต้านกัน ทำให้ถ้าปัดก็จะปัดลากแบบล้อฟรีไปทั้งคัน โอกาสคว่ำหรือล้มจะน้อยกว่าครับ
หากมีวิธีขับเพิ่มเติมจะมาอธิบายเพิ่มนะครับ ชีวิตสำคัญ ขับขี่ปลอดภัย ใช้ความเร็วไม่มากไว้ก่อนนะครับ โชคดีทุกคน.....