Valentino Rossi - The Doctor
,
ที่มาของคำว่า "The Doctor" ของ Rossi
ตั้งแต่เริ่มการแข่งรถ รอสซี่ (Rossi) มีชื่อเล่นมากมาย
รอสซี่นั้นได้แชมป์โลกการแข่งมอเตอร์ไซต์ตั้งแต่รุ่น 125cc จนได้ขยับมาขับรุ่น 250cc และก็ได้แชมป์โลกจนได้ขยับมาขับรุ่น 500cc ซึ่งปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันคือ MotoGP คำว่า "The Doctor" ได้กลายมาชื่อเล่นที่เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับรอสซี่ (Rossi)
โดยมี 2 อย่างที่ทำไมรอสซี่จึงเลือกใช้ชื่อนี้เป็นชื่อเรียก "The Doctor" อย่างแรกก็คือ รอสซี่จะมีการเปลี่ยนชื่อเล่นเมื่อได้รับเลื่อนระดับการแข่งขัน คล้ายๆ ระดับปริญญา ซึ่งในอิตาลี่ก็จะได้รับสิทธิในการเรียกว่า "Doctor" หรือ "หมอ" ซึ่งก็เหมือน 125cc เป็นปริญญาตรี 250cc เป็นปริญญาโท และ 500cc ระดับสูงสุดเป็นปริญญาเอกหรือ Doctor
และอย่างที่สองคือ ถูกพูดโดยพ่อของรอสซี่ (Graziano Rossi) "The Doctor" เพราะว่า "ฉันคิดว่ามันไม่มีเหตุผลใดโดยเฉพาะ แต่มัน่เป็นเรื่องที่สวยงามและเป็นสิ่งสำคัญ และในประเทศอิตาลี่ The Doctor เป็นชื่อที่คุณมอบให้กับคนที่คุณเคารพ มันเป็นสิ่งสำคัญมาก" อย่างไรก็ตามชื่อนี้มาถึงแล้วเพราะว่าในอิตาลี่ คำว่า Rossi เป็นนามสกุลทั่วๆ ไปของหมอหลายๆ ท่าน
Rossi เขาใช้หมายเลข 46 ในการแข่งทุกครั้งในอาชีพของเขา หมายเลข 46 นี้พ่อของรอสซี่ได้ใช้ในการแข่งขันสำหรับ 3 สนามแรกที่ได้รับชัยชนะในปี 1979 ที่ยูโกสลาเวีย สำหรับรุ่น 250cc Morbidelli โดยปกติแล้วผู้ที่ชนะแชมป์โลกจะได้รับรางวัลโดยให้ใช้หมายเลข 1 ในการแข่งขันฤดูกาลถัดไป อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเคารพให้กับ บาร์รี่ ชีน (Barry Sheene) ผู้ซึ่งเป็นนักคนแรกที่เริ่มใช้ตัวเลขตัวเดิมตลอดคือเลข 7 รอสซี่จึงยังคงใช้หมายเลขที่ชื่นชอบคือ 46 ต่อไปในอาชีพของเขาแม้ว่าเขาจะเป็นแชมป์โลกและได้รับหมายเลข 1 ก็ตาม เขาก็ได้ใช้เลขนี้ติดบนไหล่ของชุดแข่งหนัง
ข้อความบนหมวกอ้างอิงถึงชื่อของกลุ่มของเพื่อน "The Tribe of the Chihuahua" และตัวอักษร WLF บนชุดหนังตรงหน้าอกสำหรับ "Viva La Figa" หรือแปลว่ากอดและจูบที่เร่าร้อน
เขาได้หนีออกมาไกลจากบทลงโทษหรือยื่นคำขาดที่เขาจะลบตัวอักษรเพราะว่า "W" ใน "WLF" ถูกแสดงถึงตัว V สองตัวใน "ViVa" เทียบเท่ากับว่าเขากำลังหนีจากบทวินัยจาก FIM หรือ Dorna Sports สำหรับการที่มีตัวอักษรให้เห็นชัดบนปกคอเสื้อหนังของเขา เขายังคงใช้สีที่ชื่นชอบเหมือนเดิมคือ สีเหลืองสะท้อนแสงบนเสื้อหนังของเขา ทำให้เขาได้รับฉายาว่า "Highlighter Pen" หรือ "ปากกาไฮไลท์" เมื่อเร็วๆ นี้ มันเป็นชื่อที่ถูกเรียกโดยปกติจากผู้วิจารณ์ Toby Moody และ Julian Ryder